การกระทำความผิดทางเทคโนโลยีในประเทศไทย
ตัวอย่างที่ 1 การละเมิดของการเล่นเกมออนไลน์
การแถลงข่าวการดำเนินคดีจับผู้เผยแพร่โปรแกรมช่วยเล่นเกมออนไลน์ผ่านเว็บไซต์โปรแกรมช่วยเล่นจำนวน
2 ชนิด ได้แก่ Cabal TCB (ใช้กับตัวเกม Cabal ) และ
TRH Trainer
มาตราที่ทำผิดและโทษที่ได้รับ ผิด พ.ร.บ.
การกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 13 (
ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด)
พิพากษาตัดสินให้จำคุก 2 เดือน ปรับ 7,000 บาท หรือรอลงอาญา และ
สำหรับผู้ที่ใช้โปรแกรมบอท-โปร นอกจากจะถูกบริษัทฯ แบนไอดีแล้ว
ยังต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตามความผิด พ.ร.บ. กระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14
(ผู้ใดเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ) การป้องกัน
ต้องเริ่มจากตนเอง การฟันฝ่าอุปสรรค
การใช้ความสามารถของตนเองจะมีความภูมิใจมากกว่า
และควรมีจรรยาบรรณแล
นายภาณุพัฒน์ อายุ 30 ปี
ป็นจำเลยในความผิดฐานเข้าระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกัน
ทำลายแก้ไข เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม ทำให้เกิดความเสียหาย ,ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ
,ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
โดยจำเลยบังอาจใช้ข้อมูลหมายเลข 16 หลัก ที่ปรากฏบนหน้าบัตร เอทีเอ็ม พร้อมรหัสลับที่ใช้ถอนเงินของธนาคารไทยพาณิชย์
จำกัด ( มหาชน )
มาตราที่ทำผิดและโทษที่ได้รับ
กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
269/5 ประกอบมาตรา269/7 ,334,335
พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
พ.ศ.2550 มาตรา 5,7,9
ศาลตัดสินบทลงโทษฐานใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ 5 กระทง
จำคุกกระทงละ 9 เดือน เป็นจำคุก 3 ปี 9 เดือน
ฐานเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกัน ทำลายแก้ไข
เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม ทำให้เกิดความเสียหายฯ 4 กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก
8 ปี และฐานลักทรัพย์ฯ จำคุกกระทงละ 2 ปี 5 กระทง เป็นจำคุก 10 ปี รวมจำคุก 21 ปี
9 เดือน คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลย 10 ปี 10 เดือน 15
วัน และให้จำเลยชดใช้เงินคืน 368,800 บาทแก่ผู้เสียหายด้วย
การป้องกัน เป็นความผิดร้ายแรงทั้งด้านกฎหมายและหลักจริยธรรม ควรรู้จักพอประมาณ
ไม่เอาเปรียบจนก่อให้ผู้เดือดร้อนหรือเสียหาย
ที่มาของข่าว http://keng8.blogspot.com/2012/11/blog-post.html
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ
และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้นำตัวนายเอกวิทย์ ทองดีวรกุล อายุ 22
เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และมือแฮกเกอร์เฟซบุ๊คของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหากรณีเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงของผู้อื่นโดยมิชอบ
มาแถลงข่าว
มาตราที่ทำผิดและโทษที่ได้รับ
สำหรับการกระทำความผิดดังกล่าวเข้าข่ายความผิดมาตรา 5, 7, 9 และ 14 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
พ.ศ. 2550 ส่วนเว็บหมิ่นฯ
กระทรวงไอซีทีมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว มาตรา 5 ระบุว่า
ผู้ใดเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตราการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ
และไม่ใช่ระบบของตนเอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนมาตรา 7
กล่าวถึงความผิดจากการเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ของคนอื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน
40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับขณะที่มาตรา 9
ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง
หรือเพิ่มเติมข้อมูลคอมพิวเตอร์ผู้อื่นมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท
และมาตรา 14 ผู้ใดเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลที่ถูกละเมิดโดยมิชอบ ต้องจำคุกสูงสุด 2
ปี ปรับ 40,000 บาท การป้องกัน ควรมีจรรยาบรรณและคุณธรรมและความซื่อสัตย์ในตนเอง
ที่มาของข่าว https://goo.gl/LWerup
ตัวอย่างที่ 4 แพร่คลิปโฟร์-มด คุก !!! (๓ ปี)
กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก
เยาวชนและสตรี โดย พล.ต.ต.วิสุทธิ์
วานิชบุตร ได้เปิดแถลงข่าวรายวันว่า รู้ตัวคนแอบถ่ายคลิปฉาวของสองสาวดูโอแล้ว
ซึ่งบางวันก็มีข้อมูลว่าได้เค้าของคนแอบเผยแพร่ภาพมีข้อมูลเชิงลึกหลายๆ อย่าง
เพียงรอให้ทางบริษัท อาร์เอสฯ หรือผู้เสียหายเข้าแจ้งความก็จะดำเนินการต่อไปได้
มาตราที่ทำผิดและโทษที่ได้รับ
มาตรา
๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์
ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ
ถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์
ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี
หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การป้องกัน ไม่สร้างความเดือดให้กับผู้อื่นจนเสียหายหรือเสียชื่อเสียง
ที่มาของข่าว http://phitigun.blogspot.com/2012/07/blog-post.html
ศาลอาญา ถรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาที่
พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายพรวัฒน์ ทองธนบูรณ์ หรือเคทอง
อายุ 50 ปี คนสนิท พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง เป็นจำเลยในความผิดตาม
พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ จากกรณีที่จำเลยประกาศผ่านแคมฟร็อกเมื่อ 26-27
ก.พ.53 ซึ่งโจทก์ระบุว่าเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ ไม่ใช่การแสดงความเห็นโดยสุจริต
หรือวิจารณ์โดยความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ จะสร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชน
มาตราที่ทำผิดและโทษที่ได้รับ
เป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรและการก่อการร้าย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับ
คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 392 มาตรา 14
ผู้ใดเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลที่ถูกละเมิดโดยมิชอบ ต้องจำคุกสูงสุด 2 ปี ปรับ
40,000 บาท ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 116 ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา
หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันเป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ
หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 392 ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกิน10,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การป้องกัน หลีกเลี่ยงการยุยงปลุกปั่น เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ที่มาของข่าว http://prachatai.com/journal/2011/03/33622